วันอังคารที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2554

จริยธรรมและความปลอดภัยในระบบคอมฯและสารสนเทศ

จริยธรรมและความปลอดภัยในระบบคอมฯและสารสนเทศ
1.จงอธิบายเปรียบเทียบยกตัวอย่างของไวรัส เวิร์ม และม้าโทรจัน
ไวรัส เวิร์ม และม้าโทรจัน
           ไวรัส เวิร์ม และม้าโทรจันเป็นโปรแกรมอันตรายที่สามารถทำความเสียหายต่อเครื่องคอมพิวเตอร์ และข้อมูลในเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณ ทำให้อินเทอร์เน็ตช้าลง และใช้คอมพิวเตอร์ของคุณในการแพร่กระจายตัวเอง ไปยังเพื่อนฝูง ครอบครัว เพื่อนร่วมงานของคุณ จนถึงตลอดทั่วทั้งเว็บ สิ่งที่น่ายินดีก็คือด้วยการใช้วิธีป้องกันเพียงเล็กน้อย รวมทั้งสามัญสำนึกที่ดี โอกาสที่คุณจะตกเป็นเหยื่อของภัยคุกคามเหล่านี้ก็จะลดน้อยลง เปรียบได้กับการที่คุณล็อคประตู หน้าบ้านเพื่อป้องกันครอบครัวของคุณนั่นเอง โปรดอ่านเอกสารนี้ เพื่อศึกษาถึงคำอธิบาย วิธีตรวจสอบว่าคุณตกเป็นเหยื่อของภัยร้ายดังกล่าวหรือไม่ รวมทั้งวิธีการแก้ปัญหาที่คุณสามารถนำไปใช้เพื่อทำให้คอมพิวเตอร์ของคุณมีความปลอดภัยมากขึ้น

ไวรัสคือ

ไวรัสคือรหัสคอมพิวเตอร์ชุดหนึ่งที่ฝังตัวเองในโปรแกรมหรือไฟล์หนึ่ง เพื่อที่จะแพร่กระจายตัวเองจากคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งไปยังอีกเครื่องหนึ่งได้ โดยทำความเสียหายแก่เครื่องในขณะที่มันแพร่กระจาย ไวรัสสามารถสร้างความเสียหายให้แก่ซอฟต์แวร์ ฮาร์ดแวร์ และไฟล์ของคุณได้

ไวรัส (น.) รหัสที่เขียนขึ้นด้วยความตั้งใจให้สำเนาตัวเอง ไวรัสจะพยายามแพร่กระจายจากคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งไปยังอีกเครื่องหนึ่งโดยการฝังตัวเองเข้ากับโปรแกรมที่เป็นโฮสต์ ไวรัสอาจสร้างความเสียหายให้แก่ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ หรือข้อมูลต่างๆ ได้ เปรียบเทียบกับ เวิร์ม

ความร้ายแรงของไวรัสคอมพิวเตอร์มีตั้งแต่ก่อให้เกิดความรำคาญจนถึงขั้นทำความเสียหายอย่างร้ายแรง ซึ่งคล้ายกับไวรัสของคนที่มีความร้ายแรงมาก เช่น ไวรัส Ebola ลงมาถึงรุนแรงน้อย เช่น ไวรัสโรคหวัด เป็นต้น ข่าวดีก็คือไวรัสคอมพิวเตอร์ที่แท้จริงจะไม่สามารถแพร่กระจายได้ หากเราไม่ได้เคลื่อนย้ายไวรัสนั้นด้วยการกระทำต่างๆ เช่น การแบ่งปันไฟล์ หรือการส่งอีเมล เป็นต้น

เวิร์มคือ
เวิร์มมีลักษณะคล้ายไวรัส คือเป็นโปรแกรมที่ถูกออกแบบมาเพื่อคัดลอกตัวเองจากคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งไปยังอีกเครื่องหนึ่งโดยอัตโนมัติ จากการเข้าควบคุมคุณสมบัติบางอย่างของคอมพิวเตอร์ที่ใช้ส่งถ่ายไฟล์หรือข้อมูล เมื่อเวิร์มเข้ามาอยู่ในระบบของคุณแล้ว จะสามารถแพร่กระจายด้วยตัวเองได้ สิ่งที่เป็นอันตรายที่สุดของเวิร์มก็คือ ความสามารถในการแพร่กระจายอย่างรวดเร็วได้เป็นจำนวนมาก ตัวอย่างเช่น เวิร์มสามารถส่งสำเนาของเวิร์มไปยังทุกคนที่มีรายชื่อในสมุดบันทึกอีเมลแอดเดรสของคุณ และคอมพิวเตอร์ของเจ้าของรายชื่อเหล่านั้นก็จะดำเนินการเช่นเดียวกัน เกิดเป็นผลกระทบแบบต่อเนื่องจากการส่งข้อความในเครือข่ายอย่างหนักจนทำให้การทำงานของเครือข่ายช้าลง รวมทั้งมีผลต่ออินเทอร์เน็ตด้วย เมื่อมีการปล่อยเวิร์มใหม่ๆ ออกมา เวิร์มเหล่านี้จะแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว ทำให้เครือข่ายติดขัดและอาจทำให้คุณ (หรือคนอื่นๆ) ต้องรอนานเป็นสองเท่าในการชมเว็บเพจบนอินเทอร์เน็ต

เวิร์ม (น.) ลำดับชั้นย่อยของไวรัส โดยปกติ เวิร์มจะแพร่กระจายได้เองโดยไม่ต้องอาศัยการดำเนินการของผู้ใช้ และจะกระจายตัวมันเองได้อย่างสมบูรณ์ (หรืออาจมีการแก้ไข) ไปทั่วเครือข่าย เวิร์มจะใช้หน่วยความจำหรือ แบนด์วิดธ์ของเครือข่ายจนทำให้การตอบสนองของคอมพิวเตอร์หยุดลง เปรียบเทียบกับไวรัส
เนื่องจากเวิร์มไม่ต้องอาศัยโปรแกรมที่เป็น "โฮสต์" หรือไฟล์ในการเคลื่อนย้ายตัวเอง จึงสามารถฝังตัวเองในระบบของคุณ และทำให้ผู้อื่นสามารถเข้าควบคุมคอมพิวเตอร์ของคุณจากระยะไกลได้ ตัวอย่างเช่น เวิร์ม MyDoom ที่เกิดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ ได้รับการออกแบบมาให้เปิด "ประตูหลัง" ของระบบที่ติดเวิร์มดังกล่าว และใช้ระบบนั้นโจมตีเว็บไซต์ต่างๆ

ม้าโทรจันคือ
เช่นเดียวกับม้าโทรจันในเทพนิยายที่ดูเหมือนส่งมาเป็นของขวัญ แต่กลับกลายเป็นสิ่งที่ใช้บรรจุทหารกรีกที่ส่งเข้ามาเพื่อเข้ายึดกรุงทรอยในเวลาต่อมา ม้าโทรจันในยุคปัจจุบันเป็นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ดูเหมือนเป็นซอฟต์แวร์ที่มีประโยชน์ แต่จริงๆ แล้วสามารถทำลายระบบการรักษาความปลอดภัย ของคุณและสร้างความเสียหายได้อย่างมากมาย ม้าโทรจันปัจจุบันแฝงกายมาในรูปของอีเมลที่มีเอกสารแนบซึ่งอ้างว่าเป็นโปรแกรมปรับปรุงด้านการรักษาความปลอดภัยของ Microsoft แต่กลับเป็นตัวทำลายซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสและไฟร์วอลล์ม้าโทรจัน (น.) เป็นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ดูเหมือนเป็นซอฟต์แวร์ที่มีประโยชน์ แต่ในความเป็นจริง กลับสร้างความเสียหายม้าโทรจันจะแพร่กระจายได้เมื่อผู้ใช้ถูกหลอกให้เปิดโปรแกรมเนื่องจากคิดว่าโปรแกรมดังกล่าวมาจากแหล่งที่มาที่อ้างถึงจริงๆ เพื่อเป็นการป้องกันผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น Microsoft จะส่งข่าวสารเกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัยผ่านทางอีเมล แต่จะไม่มีเอกสารแนบไปด้วย เรายังเผยแพร่การแจ้งเตือนเกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัยทั้งหมดของเราในหน้า ข่าวสารเกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัย ก่อนที่จะส่งไปให้ลูกค้าของเราทางอีเมลม้าโทรจันยังอาจแฝงมากับซอฟต์แวร์ประเภทที่ให้คุณดาวน์โหลดได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายอีกด้วย จึงไม่ควรดาวน์โหลดซอฟต์แวร์จากแหล่งที่มาซึ่งคุณไม่รู้จัก และให้ดาวน์โหลดโปรแกรมปรับปรุงและ Patch ของ Microsoft อยู่เสมอ จาก Microsoft Windows Update หรือ Microsoft Office Updat

เวิร์มและไวรัสอื่นๆ แพร่กระจายได้อย่างไร
ไวรัสเกือบทุกชนิดและเวิร์มจำนวนมากจะไม่สามารถแพร่กระจายได้ หากคุณไม่เปิดหรือรันโปรแกรมที่ติดเชื้อเหล่านั้นไวรัสที่อันตรายมากที่สุด ส่วนมากจะใช้วิธีแพร่กระจายผ่านทางเอกสารแนบของอีเมล ซึ่งเป็นไฟล์ที่ส่งแนบมากับข้อความอีเมล โดยปกติ คุณสามารถทราบว่าอีเมลที่คุณรับนั้นมีเอกสารแนบมาด้วยจากการที่มีไอคอนรูปคลิปหนีบกระดาษที่แสดงแทนเอกสารแนบพร้อมกับชื่อเอกสาร ประเภทไฟล์ที่คุณได้รับทางอีเมล์ในแต่ละวันอาจประกอบด้วยภาพถ่าย จดหมายที่เขียนจากโปรแกรม Microsoft Word และแม้กระทั่งกระดาษคำนวณ Excel ไวรัสจะเปิดขึ้นเมื่อคุณเปิดไฟล์แนบขึ้นมา (โดยทั่วไป ด้วยการดับเบิลคลิกที่ไอคอนของเอกสารแนบ)
เคล็ดลับ: ห้ามเปิดสิ่งใดๆ ที่แนบมากับอีเมลเว้นเสียแต่ว่าเป็นเอกสารแนบที่คุณรอรับอยู่และ คุณรู้เนื้อหาของไฟล์นั้นอย่างแท้จริงหากคุณได้รับอีเมล์พร้อมกับเอกสารแนบจากใครบางคนที่คุณไม่รู้จัก คุณควรลบอีเมลฉบับนั้นทิ้งทันที อย่างไรก็ตาม การเปิดเอกสารแนบจากผู้ที่คุณรู้จักเป็นเรื่องที่ไม่ปลอดภัยอีกแล้ว เนื่องจากไวรัสและเวิร์ม สามารถขโมยข้อมูลจากโปรแกรมอีเมลแล้วส่งตัวเองไปยังทุกคนที่มีรายชื่อในสมุดอีเมลแอดเดรสของคุณ ดังนั้น หากว่าคุณได้รับอีเมลจากบุคคลบางคนที่เป็นข้อความที่คุณอ่านไม่เข้าใจหรือเป็นไฟล์ที่ คุณไม่ได้รอรับอยู่ ให้ติดต่อบุคคลผู้นั้นและรับคำยืนยันเรื่องเนื้อหาของเอกสารแนบนั้นก่อนที่จะเปิดอ่าน ไวรัสตัวอื่นๆ สามารถแพร่กระจายผ่านทางโปรแกรมที่คุณดาวน์โหลดจากอินเทอร์เน็ตหรือจากแผ่นดิสก์ คอมพิวเตอร์ที่ติดไวรัสจากเพื่อนหรือแม้กระทั่งที่ซื้อจากร้านค้า แต่การติดไวรัสด้วยวิธีเหล่านี้มีเป็นส่วนน้อย ผู้คนส่วนใหญ่รับไวรัสเข้าสู่เครื่องของตนจากการเปิดและรันเอกสารแนบอีเมลที่ไม่รู้จักมากกว่า

เราจะทราบได้อย่างไรว่าคอมพิวเตอร์ติดเวิร์มหรือไวรัสอื่นๆ หรือไม่
เมื่อคุณเปิดและรันโปรแกรมที่ติดไวรัส คุณอาจไม่ทราบว่าเครื่องได้ติดไวรัสแล้ว คอมพิวเตอร์ของคุณอาจทำงานช้าลง ไม่ตอบสนอง หรือหยุดค้างและรีสตาร์ตใหม่ทุกๆ 2-3 นาที บางครั้งไวรัสนั้นอาจทำความเสียหายให้กับไฟล์ต่างๆ ที่คุณต้องใช้ในการเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ หากเป็นเช่นนั้น คุณอาจพบกับความว่างเปล่าบนจอแสดงผลเมื่อคุณกดปุ่มเปิดเครื่อง อาการต่างๆ ที่กล่าวมาข้างต้นเป็นอาการทั่วไปที่แสดงว่าเครื่องของคุณได้ติดไวรัสแล้ว แม้ว่าอาการดังกล่าวอาจเกิดจากปัญหาของฮาร์ดแวร์หรือซอฟต์แวร์ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการติดไวรัสก็ตาม คุณควรให้ความระมัดระวังกับข้อความที่เตือนว่าคุณได้ส่งอีเมลที่มีไวรัสออกไป ซึ่งอาจหมายความว่า ไวรัสนั้นได้ใช้อีเมลแอดเดรสของคุณในฐานะผู้ส่งอีเมลที่ติดไวรัส แต่ไม่ได้หมายความว่าคุณได้ติดไวรัสจริง เนื่องจากว่าไวรัสบางตัวมีความสามารถในการปลอมชื่ออีเมลแอดเดรสด้วย คุณอาจได้ยินการเรียกวิธีนี้ว่า "การปลอมชื่อ" (spoofing) ก็ได้ วิธีการที่แน่นอนที่สุดที่จะทราบว่าคุณได้ติดไวรัสหรือไม่ก็คือ การติดตั้งซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสใหม่ล่าสุดในคอมพิวเตอร์ของคุณ หากคุณยังไม่มีซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสใหม่ล่าสุด หรือต้องการติดตั้งซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสใหม่ล่าสุดยี่ห้ออื่นๆ โปรดเข้าไปอ่านคำแนะนำของเราในเรื่อง การลดความเสี่ยงของไวรัสขั้นตอนต่อไป: วิธีการปรับปรุงการรักษาความปลอดภัยของคอมพิวเตอร์
ไม่มีสิ่งใดที่รับประกันเรื่องความปลอดภัยของคอมพิวเตอร์ของคุณได้ 100 เปอร์ซนต์ อย่างไรก็ตาม คุณสามารถเพิ่มความปลอดภัยให้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณมากขึ้นได้โดยการ ปรับปรุงซอฟต์แวร์อย่างสม่ำเสมอ และรักษาสถานะการเป็นสมาชิกของซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสปัจจุบันเอาไว้ โปรดศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมในหัวข้อ ป้องกันคอมพิวเตอร์ของคุณ
2.สปายแวร์คืออะไรและมีวิธีการติดตั้งในคอมฯอย่างไร

           สปายแวร์คือซอฟต์แวร์ที่สามารถติดตั้งได้ด้วยตัวมันเอง หรือทำงานบนคอมพิวเตอร์ของคุณโดยไม่มีการแจ้งเตือน ความยินยอม หรือการควบคุมที่เหมาะสม สปายแวร์อาจไม่แสดงอาการหลังจากที่ทำอันตรายคอมพิวเตอร์ของคุณ แต่ซอฟต์แวร์ที่เป็นอันตรายหรือโปรแกรมที่ไม่เป็นที่ต้องการหลายชนิดสามารถส่งผลกระทบต่อการทำงานของคอมพิวเตอร์ของคุณได้ ตัวอย่างเช่น สปายแวร์สามารถตรวจสอบลักษณะการทำงานออนไลน์ของคุณ หรือเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับคุณ (ทั้งข้อมูลส่วนบุคคลหรือข้อมูลที่สำคัญอื่นๆ) เปลี่ยนแปลงการตั้งค่าบนคอมพิวเตอร์ หรือเป็นสาเหตุให้คอมพิวเตอร์ทำงานช้าลง

วิธีติดตั้งในคอมฯ
คือ การติดตั้งจากแผ่น Driver หรือ การดาว์นโหลดจากอินเทอร์เน็ตมา เช่น โปรแกรมAd-aware ,Spycop

3.ท่านมีวิธีการหลีกเลี่ยงการเป็นเป้าหมายของ Spam Mail
Spam คือ e-mail ลักษณะหนึ่ง ที่ส่งถึงท่าน หรือคนทั่วโลก โดยผู้ส่งไม่จำเป็นต้องรู้จักท่านมาก่อน เพราะเขาใช้โปรแกรมหว่านแห ส่งไปทั่ว เท่าที่จะส่งไปได้ และมักเป็น e-mail ที่เราท่าน ไม่พึงประสงค์ เป้าหมายส่วนใหญ่ของ spam คือ เชิญชวนให้ท่านไปซื้อสินค้า หรือแนะนำเว็บทางการค้า ที่เจ้าของเว็บจ่ายเงินจ้างhackerเก่งๆให้สร้างspamให้กับเว็บของตนหรืออาจเกิดจากนักเจาะระบบสมัครเล่น ที่ชอบทดลองก็เป็นได้และปกติเราจะไม่สามารถควานหาตัวผู้สร้างspamได้โดยง่ายเพราะพวกเขามีวิธีพลางตัว ที่ซับซ้อนยิ่งนัก เช่น login จาก server หนึ่ง กระโดดไปอีก server หนึ่ง แล้วจึงจะเริ่มเจาะ server เป้าหมาย ที่สถาบันผมเจอมาแล้วว่า มีคนเข้า server ผมได้ แล้วใช้เป็นทางผ่านไปเจาะ ญี่ปุ่นบ้าง อเมริกาบ้าง อังกฤษ บ้าง พอเช็ค account ก็เป็นของนักศึกษาที่ไม่เคยใช้ internet มาก่อนเลยก็มี
Spam Mail (Junk Mail) ในปัจจุบันการติดต่อสื่อสารทางจดหมายอิเล็กทรอนิกส์หรืออีเมล์เป็นที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย ทั้งในระดับองค์กรเพื่อติดต่อทางธุรกิจหรือการติดต่อสื่อสารส่วนตัวซึ่งอีเมล์แอดเดรสของเรา ก็เปรียบเสมือนการที่อยู่ทางไปรษณีย์นั่นเองแต่จะแตกต่างกันก็คืออีเมล์แอดเดรสจะถูกส่งไปกับอีเมล์ที่เรารับ ,ส่ง,ส่งต่อ(forward)ก็หมายถึงทุกครั้งที่เรารับ,ส่งหรือส่งต่ออีเมล์จะทำให้คนที่อยู่ในกลุ่มผู้รับหรือผู้ที่รับอีเมล์ต่อ จะรู้อีเมล์แอดเดรสของเราอย่างง่ายดายหมายถึงโอกาสที่กลุ่มผู้สร้างSPAMจะสามารถรู้อีเมล์แอดเดรสของเรา และส่ง SPAM อีเมล์มาให้เราได้อย่างไม่ยากเลย
Spam เกิดขึ้นได้อย่างไร ก็อย่างที่เรารู้กันว่าการส่งอีเมล์เป็นการสื่อสารที่เสียค่าใช่จ่ายน้อยและสามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้จำนวนมาก พวกสร้างSPAMก็คือพวกที่ต้องการเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคให้ได้มากที่สุดเพื่อจุดประสงค์ในการโฆษณาขายสินค้า, ประชาสัมพันธ์ทางธุรกิจของตนจึงใช้วิธีการให้ได้มาซึ่งอีเมล์แอดเดรสของกลุ่มผู้บริโภคที่เป็นกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งอาจเป็นได้จากหลายกรณีเช่นการที่เราส่งต่ออีเมล์ต่างๆ,การใช้อีเมล์แอดเดรสในการสมัครสมาชิกของกลุ่มข่าว ( newsgroup) หรือ สมัครสมาชิกของ website ต่างๆ เป็นต้น
วิธีการป้องกัน
จะเห็นได้ว่า SPAM เกิดจากการที่พวกที่สร้าง SPAM รู้อีเมล์แอดเดรสของเรา ดังนั้นการป้องกันที่สาเหตุที่ดีที่สุดคือการที่ป้องกันไม่ให้คนอื่นที่ไม่จำเป็นหรือไม่เกี่ยวข้อง ติดต่อรู้อีเมล์แอดเดรสของเรา แต่ถ้าเราไม่สามารถป้องกันได้ที่สาเหตุตั้งแต่แรก และเราได้เคยได้รับ SPAM อีเมล์แล้ว เราก็สามารถการป้องกันได้ที่ปลายเหตุ โดยใช้ความสามารถของอีเมล์ไคลเอ็นท์ เช่น Microsoft Outlook ในการกรอง SPAM อีเมล์ หรือ/และร่วมกับความสามารถของอีเมล์เซอร์เวอร์ เช่น Microsoft Exchange หรือ ซอร์ฟแวร์ anti-spam เพิ่มเติม ตามความเหมาะสม โดยทั่วไปการป้องกัน SPAM สามารถทำได้ดังนี้
1. หลีกเลี่ยงการตอบอีเมล์ SPAM เพราะการตอบอีเมล์ SPAM ทำให้พวกผู้สร้าง SPAM รู้ว่าคุณยังใช้อีเมล์แอดเดรสและเมล์บ๊อกซ์นี้อยู่ ทำให้พวกผู้สร้าง SPAM จะส่งอีเมล์ SPAM มาอีก ทางที่ดีที่สุดคือลบอีเมล์ SPAM ทิ้งเมื่อคุณได้รับมัน
2. ไม่ควรใช้อีเมล์แอดเดรสที่ใช้ในองค์กร ในการลงทะเบียนใดๆ บนอินเตอร์เนต ในบางครั้งคุณอาจต้องการลงทะเบียน mailing list, news group , การดาวน์โหลด freeware หรือ shareware, การสมัครสมาชิกใดๆบนอินเตอร์เนต หรือการซื่อของทางอินเตอร์เนต คุณไม่ควรจะใช้อีเมล์แอดเดรสที่ใช้ในองค์กรในการลงทะเบียนเหล่านี้ เพราะจะทำให้อีเมล์แอดเดรสของคุณหลุดรอดไปยังพวกสร้างอีเมล์ SPAM ได้ ข้อแนะนำคือ ให้สร้างอีเมล์แอดเดรสในฟรีเมล์เช่น hotmail ไว้อีกหนึ่งอีเมล์แอดเดรส เพื่อใช้ในการลงทะเบียนหรือซื้อของทางอินเตอร์เนตแทนการใช้อีเมล์แอดเดรสหลักที่ใช้ในองค์กร
3. หากต้องใช้อีเมล์แอดเดรสในการลงทะเบียน website ใดๆให้อ่าน privacy policy ให้ละเอียด สำหรับ website ที่ต้องการให้คุณใช้อีเมล์แอดเดรสในการลงทะเบียน มักมี privacy policy ให้คุณอ่านและเลือกตอบเช่นคุณต้องการเปิดเผยข้อมูลและอีเมล์แอดเดรสของคุณแก่ผู้ที่อยู่ในกลุ่มผู้ใช้ของ websiteหรือไม่?,อีเมล์ของคุณต้องการให้เก็บเป็นความลับหรือไม่?เป็นต้นดังนั้นคุณจะต้องอ่านให้ละเอียด และเลือกตอบให้เหมาะสม
4. ไม่ควรส่งต่ออีเมล์ประเภท chain e-mail หรือ forward mail ซึ่งปัจจุบันมี chain e-mail หลายรูปแบบ เช่นการบริจาคเงิน , บริจาคเลือด , การได้รับรางวัล ต่างๆ หรือ forward e-mail เช่นรูปภาพ , ข้อความ , ข่าวเป็นต้นหากต้องการส่งต่ออีเมล์ประเภทนี้ก็ควรจะลบรายชื่อของผู้ที่ได้รับอีเมล์ก่อนหน้านี้ที่จะปรากฎอย ู่เมื่อคุณกดปุ่ม Forward ทั้งนี้เป็นช่วยการป้องกันผู้ที่อยู่ในรายชื่อของผู้ที่ได้รับอีเมล์ก่อนหน้านี้ แต่อย่าลืมว่าผู้ที่ได้รับอีเมล์ต่อจากคุณอาจจะส่งต่อไปให้เพือนๆของเขาซึ่งคุณก็มีโอกาสเสี่ยง ในการที่พวกสร้างอีเมล์ SPAM จะรู้อีเมล์แอดเดรสของคุณอยู่ดี


4.ท่านคิดว่าการทำสำเนาแผ่นซีดีเพลง เป็นการกระทำผิดจริยธรรมหรือไม่เพราะเหตุใดและการดาวน์โหลดเพลงจากอินเตอร์เน็ตเช่นเดียวกันมีความเห็นอย่างไร
         คือ การทำสำเนาแผ่นซีดีเพลงเป็นการกระทำที่ผิดจริยธรรม เพราะซีดีเพลงที่ได้มานั้น ไม่ได้มาโดยง่ายเลย และยังเป็นลิขสิทธิ์ ของค่ายเพลงนั้นๆ ด้วย และการดาวน์โหลดเพลงจากอินเทอร์เน็ต ถือว่าผิดจริยธรรมเหมือน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น